Adrenal fatigue
ต่อมหมวกไตคือต่อมสำคัญในร่างกายที่มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนหลายชนิด ฮอร์โมนที่สำคัญคือ Cortisol หรือฮอร์โมนความเครียด ที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อให้เราสามารถทนกับภาวะเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ ซึ่งการเดินทางไกลๆหรือการที่เราไปอยู่อาศัยในสถานที่ๆไม่คุ้นชิน เช่น ต่างประเทศ ผจญกับความแตกต่างทั้งด้านเวลา สภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่และอาหารการกิน ทำให้ร่างกายเราเกิดความเครียดหรือ stress โดยไม่รู้ตัว และเมื่อต่อมหมวกไตต้องหลั่ง cortisol ออกมามากๆ ในเวลาติดต่อกันนานๆ ก็จะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า ต่อมหมวกไตล้า หรือ Adrenal fatigue ทำให้ร่างกายมีอาการอ่อนล้า ไม่มีแรง นอนไม่หลับ หิวหวานหรือคาเฟอีนอยู่ตลอดเวลา ทำให้บวมหรือน้ำหนักตัวขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง ทำให้เจ็บป่วยง่ายหรือฟื้นตัวช้า
Jet lag
เมื่อเราเดินทางข้าม time zone มากกว่า 3 time zone ในระยะเวลาอันสั้น เช่น การนั่งเครื่องบิน โดยเฉพาะเดินทางในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ทำให้นาฬิกาชีวภาพในร่างกายเราไม่สามารถปรับตัวได้ทัน เพราะนาฬิกานี้จะปรับตัวตามสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ แสงสว่าง เมื่อนาฬิกานี้ปรับไม่ทัน จะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการเหมือนเมาเวลา คือ ปวดหรือเวียนศีรษะ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ง่วงนอนแต่นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ความจำและสมาธิแย่ลง โดยปกติอาการเมาเวลานี้สามารถหายได้เองโดยใช้เวลา 1 วัน ต่อ 1 time zone ที่เปลี่ยน ตัวอย่าง เช่น จากกรุงเทพไปนิวยอร์ก time zone ต่างกัน 12 time zone เท่ากับว่าอาจต้องใช้เวลาปรับสภาพ 12 วันโดยประมาณ แต่ด้วยเวลาฟื้นตัวที่นานขนาดนี้ คงทำให้เราหมดสนุกกับการท่องเที่ยวไปพอสมควร ส่วนคนที่ต้องรีบไปทำงานก็คงไปง่วงเหงาหาวนอนในที่ทำงานไปเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว
อาการเหล่านี้ สามารถบรรเทาได้โดยการเตรียมสภาพร่างกายด้วยการดริปวิตามิน หรือการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ร่างกายมีสารอาหารที่เพียงพอ เสริมภูมิต้านทานแก่ร่างกาย ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและเจ็บป่วย ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมหมวกไตซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะ Adrenal fatigue นอกจากนั้นการดริปวิตามินยังช่วยป้องกันและบรรเทาอาการจาก jet lag หรืออาการจากการบินข้าม time zone อีกด้วย
