Regenerative Medicine
เราทุกคนทราบว่า เมื่อตอนเป็นเด็ก เวลามีบาดแผลต่างๆ เกิดขึ้นตามร่างกาย ไม่ว่าเป็นผิวหนัง หรือกระดูก บาดแผลเหล่านั้นมักหายอย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความเสียหายเอาไว้ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น คุญสมบัตินี้จะค่อยๆลดลง บาดแผลต่างๆ หายช้าลงหรือบางครั้งอาจเป็นเรื้อรังเช่นเดียวกับภาวะต่างๆ ที่ไม่อาจหายไป ซึ่งการที่ร่างกายขาดความสามารถในการรักษาตัวเองนี้ทำให้เกิดโรคหรือความพิการต่างๆ ตามมาได้ ความเสื่อมของร่างกายเกิดได้หลายสาเหตุ ทั้งจากการมีอายุมากขึ้นหรือที่เราเรียกกันว่า “ความชรา” หรือจากการใช้งานร่างกายที่มากเกินไป รวมถึงความเครียดที่สะสมจากการทำงาน เหล่านี้เป็นปัจจัยเร่งให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะที่เสื่อมถอย ทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนตอนที่อายุยังน้อย สาเหตุของความเสื่อมเหล่านี้มาจากการที่เซลล์ในร่างกายมีการทำงานที่น้อยลงทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ ตัวอย่างโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ได้แก่ โรคสมองเสื่อม โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคถุงลมโป่งพอง โรคไตวาย โรคเบาหวาน วัยทอง หรือโรคข้อเข่าเสื่อม
การตรวจวิเคราะห์และการรักษา
Regenerative Medicine หรือเวชศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู คือ ศาสตร์การแพทย์ที่มุ่งเน้นในการฟื้นฟูระบบต่างๆ ในร่างกายจากความเสื่อมที่เกิดขึ้น เพื่อให้ระบบเหล่านั้นกลับมามีการทำงานที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ด้วยความก้าวหน้าของการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้มีวิธีการบำบัดเพื่อการฟื้นฟูที่หลากหลายและปลอดภัย โดยแพทย์ต้องทำการวิเคราะห์ปัญหาของแต่ละบุคคลและเลือกการรักษาที่เหมาะสม โดยการบำบัดเหล่านั้น ได้แก่
1. การรักษาด้วยการให้ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy)
เหมาะกับผู้ที่มีความผิดปกติของการสร้างฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้สร้างไม่เพียงพอหรือไม่สมดุลย์กับความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะต่างๆตามมา เช่น อาการของวัยทอง, โรคกระดูกบางหรือกระดูกพรุน, โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ, โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, โรคทางสมองและภาวะอารมณ์แปรปรวน เป็นต้น
2. การฉีดเกล็ดเลือด (Platelet Rich Plasma Therapy : PRP)
คือ การรักษาโดยการฉีดเกล็ดเลือดความเข้มข้นสูงที่สกัดมาจากเลือดของผู้ป่วยเอง ซึ่งส่วนที่ใช้นี้มี growth factor หรือสารกระตุ้นการซ่อมแซมร่างกายในปริมาณสูง โดยทำการฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการการรักษาหรือฟื้นฟู เหมาะในการรักษาการเสื่อมของอวัยวะทั้งจากความชราและจากการใช้งานที่มากเกินไป ได้แก่ ข้อเข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อม แผลเรื้อรัง รวมถึงรอยเหี่ยวย่นที่ผิวหนัง
3. การบำบัดด้วยแสงเลเซอร์ (IV Laser Therapy)
คือ การรักษาโดยการเพิ่มพลังงานให้เซลล์ในร่างกายด้วยแสงเลเซอร์ผ่านทางหลอดเลือดดำ กระตุ้นให้เซลล์มีพลังงานมากขึ้น ผลคือ ทำให้ร่างกายแข็งแรง และสามารถใช้ในการรักษาโรคบางอย่างได้อีกด้วย เช่น โรคระบบหลอดเลือดและหัวใจบางชนิด โรคทางสมองบางชนิด โรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรคไตวายเนื่องจากเลือดมาเลี้ยงไตไม่เพียงพอ แผลเรื้อรังจากเบาหวานหรือการขาดเลือด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด ภาวะเครียด นอนไม่หลับ
4. โอโซนบำบัด (Major Autohemotherapy : MAH)
คือการนำโอโซนทางการแพทย์ที่มีความบริสุทธิ์และปลอดภัย มาใช้ในการรักษาโรคและสร้างเสริมสุขภาพ กระตุ้นการฟื้นฟูของร่างกาย เพิ่มภูมิต้านทานและช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกาย คุณสมบัติของโอโซนยังสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัสหรือเชื้อราบางชนิด นอกจากนั้นยังช่วยทำให้หลอดเลือดสะอาดและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด อีกด้วย
5. NAD+ Therapy
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่ใช้ในดูแลฟื้นฟูสุขภาพ ช่วยในการกระตุ้นการสร้างพลังงาน กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท เพิ่มภูมิคุ้มกัน และการชะลอวัย นอกจากนั้นยังมีผลต่อสมอง ทำให้สมองปลอดโปร่ง ความคิดสร้างสรรและความจำดีขึ้น ลดอาการซึมเศร้าหรือปัญหาด้านอารมณ์
All Department
Opening Hours
Monday - friday | 8:00 - 17:00 |
Saturday | 8:00 - 12:00 |